Author: Safety Master
ความปลอดภัยในการทำงานที่สูง
หลักสูตร : ความปลอดภัยในการทำงานที่สูง
SMOHS 23
1) หลักการและเหตุผล
กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับงานก่อสร้าง พ.ศ. 2551 หมวด 11 ว่าด้วย การทำงานในสถานที่ที่มีอันตรายจากการตกจากที่สูง การพังทะลายและการกระเด็นหรือตกหล่นของวัสดุ กำหนดดังนี้
ข้อ 89 ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานในที่สูงจากพื้นดินหรือพื้นอาคารตั้งแต่ 2 เมตรขึ้นไป ให้นายจ้างจัดให้มีนั่งร้าน บันได ขาหยั่ง หรือม้ายืน ที่ปลอดภัยตามสภาพของงานสำหรับลูกจ้างในการทำงานนั้น
ข้อ 90 ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างทำ งานบนที่ลาดชันที่ทำ มุมเกินสามสิบองศาจากแนวราบและสูงตั้งแต่ 2 เมตร ขึ้นไป นายจ้างต้องจัดให้มีนั่งร้านที่เหมาะสมกับสภาพของงานสายหรือเชือกช่วยชีวิต และเข็มขัดนิรภัยพร้อมอุปกร หรือเครื่องป้องกันอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน ให้ลูกจ้างใช้ในการทำงานเพื่อให้เกิดความปลอดภัย
ข้อ 91 ในกรณีที่นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานในสถานที่ที่ลูกจ้างอาจได้รับอันตรายจากการพลัดตกหรือถูกวัสดุพังทับ เช่น การทำงานบนหรือในเสา ตอม่อ เสาไฟฟ้า ปล่อง หรือคานที่มีความสูงตั้งแต่ 4 เมตร ขึ้นไป หรือทำงานบนหรือในถัง บ่อ กรวยสำหรับเทวัสดุ หรือสิ่งอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน นายจ้างต้องจัดทำราวกั้นหรือรั้วกันตก ตาข่าย สิ่งปิดกั้น หรืออุปกรณ์ป้องกันอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน เพื่อป้องกันการพลัดตกของลูกจ้างหรือสิ่งของ และจัดให้มีการใช้สายหรือเชือกช่วยชีวิตและเข็มขัดนิรภัยพร้อมอุปกรณ์ หรือเครื่องป้องกันอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน ให้ลูกจ้างใช้ในการทำงานเพื่อให้เกิดความปลอดภัย
2) วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อความปลอดภัยของลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับงานก่อสร้างและเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกจ้างได้รับอันตรายจากการทำงานที่สูง
2.2 เพื่อให้ลูกจ้างทราบถึงอันตรายของการปฏิบัติงานที่สูงและความสำคัญของอุปกรณ์กันตก รู้จักวิธีใช้อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานทีสูงและสามารถปฏิบัติงานที่สูงได้อย่างปลอดภัย
3) ผลที่คาดว่าจะได้รับ
หลังจากการฝึกอบรมผู้เข้าอบรมได้รับความรู้ มีความเข้าใจ ถึงหลักการและวิธีปฏิบัติงานที่สูง
4) กลุ่มเป้าหมาย
หัวหน้างาน พนักงานที่ปฎิบัติงานที่สูง
5) วิทยากรผู้บรรยาย/ปฏิบัติ
อ.ชเยศ แก้วลิบ
- วิทยากรสมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน ( ประเทศไทย )
- กรรมการบริหาร บริษัท เซฟตี้ มาสเตอร์ จำกัด
6) กำหนดการฝึกอบรม
เวลา | หัวข้อบรรยาย/อบรม |
08.00 – 08.30 น. | แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test) |
08.30 -12.00 น. | กฎหมายที่เกี่ยวข้อง : กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับงานก่อสร้าง พ.ศ.2551
-อุบัติเหตุและอันตรายในการทำงานเกี่ยวกับการทำงานบนที่สูง – แนวทางด้านความปลอดภัย ตามมาตรฐานการทำงานบนที่สูง – การประเมินความเสี่ยงจากการทำงานบนที่สูง – มาตรการการควบคุมความปลอดภัยในการทำงานบนที่สูง – ขั้นตอนการปฏิบัติในการทำงานบนที่สูง – การป้องกันวัสดุตกจากที่สูง – อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลในการป้องกันการตกจากที่สูง |
12.00 -13.00 น. | พักรับประทานอาหาร |
13.00 -16.00 น. | – ฝึกปฏิบัติการตรวจสอบความปลอดภัยก่อนปฏิบัติงานบนที่สูง
– ฝึกปฏิบัติการสวมใส่เข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัว (Full Body Harness) – ฝึกปฏิบัติการปีนขึ้นที่สูง |
16.00 -16.30 น. | แบบทดสอบหลังเรียน (Post-Test) |
ราคา In house Training ราคาเริ่มต้น 15,000 บาท
หมายเหตุ *** พัก/Break ช่วงเช้าเวลา 10.30 -10.45 น. ช่วงบ่าย 14.30-14.45 น.
พักกลางวัน เวลา 12.00-12.00 น.
เทคนิคการขับรถยก (FORK LIFT) อย่างถูกวิธีและปลอดภัย
หลักสูตร: เทคนิคการขับรถยก (FORK LIFT) อย่างถูกวิธีและปลอดภัย
SMOHS 5
พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 มาตรา 16 วรรคแรก บัญญัติไว้ว่า ให้นายจ้างจัดให้ผู้บริหาร หัวหน้างานและลูกจ้างทุกคนได้รับการฝึกอบรมความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อให้บริหารจัดการและดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานได้อย่างปลอดภัย
ในกรณีที่นายจ้างรับลูกจ้างเข้าทำงาน เปลี่ยนงาน เปลี่ยนสถานที่ทำงาน หรือเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรเปลี่ยนแปลงหรืออุปกรณ์ ซึ่งอาจทำให้ลูกจ้างได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ หรือสุขภาพอนามัย ให้นายจ้างจัดให้มีการฝึกอบรมลูกจ้างทุกคนก่อนเริ่มก่อนทำงาน
การฝึกอบรมตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด
กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั่นจั่น หม้อน้ำ พ.ศ. 2552 ข้อ 36 พนักงานขับรถยกต้องผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่อธิบดีกำหนด
หลักการและเหตุผล
ในยุคที่มีการแข่งขันทั้งด้านคุณภาพ (Quality) ต้นทุน/ราคา (Cost & Price) ความรวดเร็วในการส่งมอบสินค้าและบริการ Delivery on Time) รถยกหรือรถโฟล์คลิฟท์ นับว่าเป็นเครื่องจักรกลที่มีบทบาทมาก สถานประกอบกิจการได้นำเข้ามาใช้เป็นเครื่องทุ่นแรงในการยก เคลื่อนย้ายวัสดุสิ่งของกันมากขึ้นในภาคอุตสาหกรรม เพื่อลดความสูญเสีย ลดต้นทุน ลดการบาดเจ็บจากการเกิดประสบอันตรายจากการทำงาน สถานประกอบกิจการจำเป็นต้องพัฒนาบุคลากรหรือผู้ที่รับผิดชอบในการขับขี่รถยก(Fork Lift) ให้เกิดความตระหนักด้านความปลอดภัย( Safety Awareness) ดังนั้นก่อนที่ผู้ควบคุมงานจะมอบหมายหน้าที่ให้ใครคนใดคนหนึ่งทำงานกับเครื่องจักร หัวหน้างานหรือผู้เกี่ยวข้องต้องฝึกอบรมให้พนักงานหรือลูกจ้างมีความรู้ มีความเข้าใจ และมีทักษะจนเป็นที่มั่นใจว่าเขาจะทำงานด้วยความปลอดภัย
วัตถุประสงค์หลักสูตร
- เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ มีความเข้าใจ วิธีการขับขี่รถยก อย่างถูกวิธีและปลอดภัย
- เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้ทราบถึงเทคนิค วิธีการตรวจสอบ การบำรุงรักษารถยกเบื้องต้นก่อนการใช้งาน
- เพื่อเพิ่มทักษะในการขับขี่และเสริมสร้างประสบการณ์ตรงในการปฏิบัติงาน
- เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ปลุกจิตสำนึกด้านความปลอดภัย สู่เส้นทางการทำงานแบบมืออาชีพ
- เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ เน้นการมีส่วนร่วมของผู้เข้ารับการฝึกอบรม
วัตถุประสงค์รายวิชา
-
- นายจ้างหรือผู้ควบคุมงานสามารถปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั่นจั่น หม้อน้ำ พ.ศ.2552
-
- ผู้เข้าอบรมเข้าใจโครงสร้าง ส่วนประกอบของรถยก ปุ่มควบคุมต่างๆ และรู้จักวิธีการตรวจสอบ การบำรุงรักษาก่อนการใช้รถยกประจำวัน
-
- ผู้เข้าอบรมสามารถอธิบายสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถยกและสามารถบอกวิธีการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้ SMOHS 5
- ผู้เข้าอบรมสามารถอธิบายประเภทของรถยก ความหมายของโค๊ดรถยก สามารถคิดคำนวณน้ำหนัก รู้วิธีและเข้าใจวิธีขับรถยกให้ปลอดภัย
แนวทางการฝึกอบรม
- กิจกรรมการบรรยาย ซัก/ถาม-ตอบปัญหา
- ภาคปฏิบัติ สาธิตการตรวจสอบรถยกเพื่อการบำรุงรักษาเบื้องต้นและการทดสอบทักษะการขับขี่รายบุคคล
การประเมินผลหลักสูตร
1.แบบทดสอบ Pre-Testและ Post Test
2. ทดสอบภาคปฏิบัติ
คุณสมบัติของผู้เข้าอบรม/กลุ่มเป้าหมาย
1.ผู้ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการยก เคลื่อนย้ายวัสดุสิ่งของด้วยรถยก (Fork Lift)หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา
2.ต้องเป็นผู้ที่มีพื้นฐานในการขับขี่รถยก (Fork Lift) หรือเคยขับขี่รถยกมาก่อน
3. กรณีที่ไม่เคยขับรถยกมาก่อนต้องมีพื้นฐานการขับรถยนต์หรือมีใบขับขี่รถยนต์
ระยะเวลาในการฝึกอบรม 1 วัน (6 ชั่วโมง)
ราคาเริ่มต้น 15,000 บาท
วิทยากร อาจารย์ชเยศ แก้วลิบ
- วิทยากรสมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน ( ประเทศไทย )
- กรรมการบริหาร บริษัท เซฟตี้ มาสเตอร์ จำกัด
เวลา | หัวข้อการฝึกอบรม |
08.30-08.50 น. | ลงทะเบียนและทดสอบ Pre-Test |
08.50-10.15 น. | กิจกรรมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้รถยกและข้อกำหนดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อุบัติเหตุที่เกิดจากรถยก แนวทางการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับรถยก องค์ประกอบของรถยก การตรวจสอบรถยกเพื่อการบำรุงรักษา |
10.15-12.00 น. | วีดีทัศน์ การขับขี่รถยก ประเภทของรถยก โค๊ด/ความหมายเกี่ยวกับรถยก วิธีคิดคำนวณน้ำหนัก Load center จาก Name Plate วิธีปฏิบัติการขับรถยกอย่างวิธีที่ปลอดภัย ทดสอบ Pre-Test |
12.00-13.00 น. | พักกลางวัน |
13.00-16.30 น.
|
สาธิตการตรวจสอบรถยกเพื่อการบำรุงรักษา ทดสอบภาคปฏิบัติ
สรุปผลการฝึกอบรม/ข้อเสนอแนะเพื่อความปลอดภัย |
ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ให้สัญญาณแก่ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ยึดเกาะวัสดุ ผู้ควบคุมการใช้ปั้นจั่น ชนิดปั้นจั่นหอสูง รถ เรือปั้นจั่น
หลักสูตร: ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ให้สัญญาณแก่ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ยึดเกาะวัสดุ
ผู้ควบคุมการใช้ปั้นจั่น ชนิดปั้นจั่นหอสูง รถ เรือปั้นจั่น
SMOHS 20
1. หลักการและเหตุผล โดยที่กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ. 2552 กำหนดให้นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้าง ซึ่งเป็นผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ให้สัญญาณแก่ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ยึดเกาะวัสดุ หรือผู้ควบคุมการใช้ปั้นจั่น ผ่านการอบรมหลักสูตรการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว และต้องจัดให้มีการอบรมหรือทบทวนการทำงานเกี่ยวกับปั้นจั่น ตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอบรมหลักสูตรการปฏิบัติหน้าที่ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ให้สัญญาณแก่ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ยึดเกาะวัสดุ หรือผู้ควบคุมการใช้ปั้นจั่น และการอบรมทบทวนการทำงานเกี่ยวกับปั้นจั่น พ.ศ. 2554 ทั้งนี้เพื่อให้สถานประกอบกิจการได้จัดให้พนักงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ในการทำงานเกี่ยวกับปั้นจั่นได้เข้ารับการรอบรมตามหลักสูตรที่กฎหมายกำหนดไว้ 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกจ้างได้รับอันตรายจากการปฏิบัติงานเกี่ยวกับปั้นจั่น 2.2 เพื่อปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ. 2552 3. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ผู้เข้าอบรมมีความรู้ มีความเข้าใจ ในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับปั้นจั่นชนิดปั้นจั่นหอสูง รถ เรือปั้นจั่น 4. กลุ่มเป้าหมาย หัวหน้างาน พนักงานที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับปั้นจั่นชนิดปั้นจั่นหอสูง รถ เรือปั้นจั่น 5. กำหนดการและหัวข้ออบรม ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ให้สัญญาณแก่ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ยึดเกาะวัสดุ ผู้ควบคุมการใช้ปั้นจั่น ชนิดปั้นจั่นหอสูง รถ เรือปั้นจั่น ระยะเวลา 24 ชั่วโมง ( ทฤษฎี 15 ชั่วโมง ปฏิบัติ 9 ชั่วโมง )
วันแรกของการฝึกอบรม ภาคทฤษฎี 08.00 – 17.00 น.
- กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ. 2552
- มาตรฐานสัญลักษณ์ความปลอดภัย
- ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับปั้นจั่น และชนิดของปั้นจั่น
- ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเชือก ลวดสลิง โซ่ และอุปกรณ์ยก
- บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ให้สัญญาณแก่ผู้บังคับปั้นจั่น
- ความปลอดภัยในการทำงาน สาเหตุและกรณีศึกษาการเกิดอุบัติเหตุของปั้นจั่น
- ระบบเครื่องยนต์ดีเซลเบื้องต้น
- ระบบการไฮดรอลิกเบื้องต้น
วันที่สองของการฝึกอบรม ภาคทฤษฎี 08.00 -17.00 น.
- ระบบไฟฟ้าเบื้องต้น
- ระบบสัญญาณเตือน และ Limit switch
- การใช้สัญญาณมือและเครื่องหมายจราจร
- การอ่านค่าตารางพิกัดยก
- การเลือกใช้ และการตรวจสอบอุปกรณ์ยก
- วิธีผูกมัด และการยกเคลื่อนย้าย
- การประเมินน้ำหนักสิ่งของ
- การใช้คู่มือการใช้งาน การตรวจสอบ และการบำรุงรักษาตามระยะเวลา
วันที่สามของการฝึกอบรม ภาคปฏิบัติ 08.00 -18.00 น.
- การทดสอบการยกและเคลื่อนย้ายสิ่งของตามเส้นทางที่กำหนดอย่างถูกต้องและปลอดภัย
- การทดสอบเกี่ยวกับการให้สัญญาณ การผูก มัด การยึดเกาะวัสดุอย่างถูกต้องและปลอดภัย
- การทดสอบเกี่ยวกับการวางแผนการยกอย่างปลอดภัยและพิจารณาพิกัดน้ำหนักที่จะทำการยกโดยกำหนดลักษณะรูปร่าง วัสดุสิ่งของที่จะยก
Lockout Tagout
หลักสูตร : การป้องกันและลดความสูญเสียด้วยระบบ Lockout Tagout
SMOHS 11
1) หลักการและเหตุผล
จากสถิติการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันเนื่องจากการทำงานของสำนักงานประสังคม พบว่าสาเหตุการประสบอันตรายจากการปฏิบัติงานกับเครื่องจักรอุปกรณ์แหล่งจ่ายพลังงานต่างๆก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ทุพพลภาพ หรือถึงขั้นสูญเสียอวัยวะเป็นสถิติการประสบอันตรายอันดับต้นๆติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายปี เพื่อเป็นการป้องกันและลดความสูญเสียดังกล่าวผู้ควบคุมงาน ผู้ปฏิบัติงานต้องมีความเข้าใจหลักการควบคุมและป้องกันอันตรายในขณะซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักร/อุปกรณ์หรือแหล่งจ่ายไฟฟ้า
กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่นและหม้อน้ำ พ.ศ. 2552 (ข้อ 4.) (ข้อ 57.)
กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับงานเกี่ยวกับไฟฟ้า พ.ศ. 2554 (ข้อ 16.)
กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับงานเกี่ยวกับงานก่อสร้าง พ.ศ. 2551 หมวด 3 งานไฟฟ้าและการป้องกันอัคคีภัยส่วนที่ 1 งานไฟฟ้า(ข้อ 23.) (ข้อ 57.)
กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับงานในที่อับอากาศ พ.ศ. 2547 (ข้อ 11.)
มาตรฐานที่เกี่ยวข้อง OSHA HSE EU-OSHA
2) วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อปฏิบัติให้ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมายและตามข้อกำหนด มาตรฐานด้านความปลอดภัย
2.2 เพื่อให้ผู้ปฏิบัติรู้ถึงอันตรายอันเกิดจากพลังงานต่างๆในขณะทำการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักร อุปกรณ์
2.3 เพื่อให้ผู้ปฏิบัติมีความเข้าใจหลักการควบคุมและป้องกันอันตรายในขณะซ่อมบำรุงเครื่องจักร
2.4 เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถใช้อุปกรณ์ ระบบ Lock Out Tag out ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3) กลุ่มเป้าหมาย
ผู้ควบคุมงาน พนักงานฝ่ายซ่อมบำรุง ฝ่ายผลิต งานก่อสร้าง งานปรับแต่งเครื่องจักร งานตรวจสอบ งานดัดแปลง งานทำความสะอาดและผู้ที่สนใจทั่วไป
4) วิธีการฝึกอบรม
กิจกรรมการบรรยาย กิจกรรมกลุ่ม สาธิตและการฝึกปฏิบัติ การซักถาม ตอบปัญหา กรณีศึกษา การอภิปราย
5) ระยะเวลาอบรม 1วัน (6ชั่วโมง)
6) วิธีการวัดและประเมินผล
แบบทดสอบ Pre-Test Post –Test ระหว่างการฝึกอบรม และสังเกตจากการเข้าร่วมปฏิบัติ
7) ผลที่คาดว่าจะได้รับ
หลังจากการฝึกอบรมผู้เข้าอบรมได้รับความรู้ มีความเข้าใจ ถึงหลักการและวิธีปฏิบัติในการใช้อุปกรณ์ตัดแยกพลังงานโดยใช้ระบบ Lock Out และ Tag Out
8) อัตราค่าลงทะเบียน In House Training
ราคาเริ่มต้น 15,000 บาท
9) วิทยากรผู้บรรยาย/ปฏิบัติ
อ.ชเยศ แก้วลิบ
- วิทยากรสมาคมส่งเสริมความปลอดภัยและอนามัยในการทำงาน ( ประเทศไทย )
- กรรมการบริหาร บริษัท เซฟตี้ มาสเตอร์ จำกัด
10) กำหนดการฝึกอบรม
เวลา | หัวข้อบรรยาย |
08.00 – 08.30 น. | แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test) |
08.30 – 10.30 น. | กฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง,ความสำคัญของระบบ Lock Out Tag Out
พลังงานที่ก่อให้เกิดอันตราย,งานที่ต้องการใช้ระบบ Lock Out Tag Out |
10.45 – 12.00 น. | ขั้นตอนการควบคุมพลังงาน
ตัวอย่างอุปกรณ์ตัดจ่ายพลังงาน องค์ประกอบที่สำคัญของระบบ LOTO กุญแจล็อก การใช้อุปกรณ์ระบบ Lock Out Tag Out ขั้นตอนการปลดอุปกรณ์ , ขั้นตอนทำงานร่วมกับผู้รับเหมา, ขั้นตอนการเปลี่ยนกะ |
12.00 – 13.00 น. | พักรับประทานอาหาร |
13.00 – 14.30 น. |
ประเภทของอุปกรณ์ระบบ LOTO กุญแจล็อก,Lock Out Hasps ชุดล็อกและป้าย ชุดล็อกเบรกเกอร์ ชุดล็อกปุ่มกด ชุดล็อกปลั๊กไฟฟ้า ถุงล็อกชุดควบคุมรอกไฟฟ้า ชุดล็อกอเนกประสงค์แบบสายเคเบิ้ล ชุดล็อกเกตวาล์ว ชุดล็อกหัวต่อระบบนิวเมติก อุปกรณ์ช่วยล็อกแบบอื่นๆ ตัวอย่างรูปแบบป้าย |
14.45 – 16.30 น. | สรุปขั้นตอนทำ LOTO
สรุปขั้นตอนล็อกและการปิดป้าย สรุปขั้นตอนการปลดล็อก กิจกรรมกลุ่ม แบบทดสอบหลังเรียน (Post-Test) |
หมายเหตุ *** พัก/Break ช่วงเช้าเวลา 10.30 -10.45 น. ช่วงบ่าย 14.30-14.45 น.
พักกลางวัน เวลา 12.00-12.00 น.
You must be logged in to post a comment.